วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นุ่งโจงห่มสไบ เที่ยวชมงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

        ถ้าพูดถึง " ลพบุรี " หลายคนคงจะคิดถึงลิงจ๋อหน้าตาทะโมนซุกซนซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว แต่สำหรับคนที่เรียนจบด้านประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างมิ้ว มิ้วจะนึกถึงเมืองโบราณอย่าง " ละโว้ " หรือ " ลวปุระ " เสียมากกว่าค่ะ เพราะที่นี่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัย โบราณสถานทั้งที่เป็นพระราชวัง วัดวาอาราม เทวสถานร้างตามบริเวณต่างๆ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ผ่านหลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะ แต่...บทความนี้ มิ้วไม่ได้มาพูดเรื่องเครียดๆ อะไรนะคะ อย่าเข้าใจผิด เพราะครั้งนี้มิ้วจะพามาชมงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีของจังหวัดลพบุรี อย่าง " งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช " ซึ่งมิ้วได้ไปเที่ยวชมมา จะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปชมกันได้เลยค่ะ


       

     งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นพระราชวังในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของจังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน งานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งทรงนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองลพบุรี จนแทบจะเรียกได้ว่าลพบุรีนั้น เป็นราชธานีแห่งที่สองของกรุงศรีอยุธยาก็ว่าได้ ( จริงๆ สมัยก่อนหน้านั้นลพบุรีก็มีความสำคัญอยู่ก่อนแล้วอ่าแหละ ) มีการรณรงค์ให้ผู้ที่มาเข้าชมงานใส่ชุดไทยเข้างานด้วย สีสันมันอยู่ตรงนี้แหละค่าาา คุณผู้โชมมมมมม สำหรับปีนี้เค้าจัดตั้งแต่วันที่ 13-21 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้นนะคะ



     ถึงมิ้วจะไปลพบุรี และเข้าออกในพระนารายณ์ราชนิเวศน์มาหลายครั้ง ตั้งแต่ตอนออกค่าย และออกฟิลด์ในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา แต่ก็ไม่เคยได้มาในช่วงเทศกาลแบบนี้ นี่จึงเป็นการเข้ามาเยี่ยมชมงานในครั้งแรก ยอมรับเลยว่าตั้งใจมางานนี้โดยเฉพาะ เตรียมชุดไทยตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯกันเลยทีเดียว

     มิ้วเข้าชมงานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันแรกที่จัดงานเลยค่ะ ช่วงบ่ายมีการเดินขบวนชุดไทยกัน แต่มิ้วมาไม่ทันขบวน 55555  มาถึงอีกทีก็เห็นคนใส่ชุดไทยเดินกันทั่วเมืองแล้ว 
ตรงนี้เป็นถนนจากบริเวณปรางค์แขก ทอดตัวยาวไปถึงพระนารายณ์ราชนิเวศน์ค่ะ
     


     เมื่อเข้ามาถึงในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ตอนนั้นยังเป็นช่วงบ่ายๆ คนยังไม่เยอะมากค่ะ แต่เริ่มมีคนมาถ่ายรูปเล่นกันแล้ว ซึ่งแน่นอนค่ะ คนเหล่านั้นใส่ชุดไทยกันมาให้เข้ากับธีมงาน มีหลากหลายแบบมาก รวมทั้งยังมีขบวนของทหารกรุงศรีฯด้วย ไปชมภาพกันค่ะ
ขบวนของทหาร

ถ่ายรูปกับพี่ทหารแกสักหน่อย ยืนนิ่งมาก พูดด้วยก็ไม่พูดด้วยฮะ 55555



จัดเต็มกันขนาดไหน ดูกันเอาเอง อิฉันยอมแพ้เลยเจ้าค่ะ 5555


     นอกจากบรรดาผู้เข้าชมงานที่แต่งชุดไทยอยู่คลาคล่ำแล้ว ยังมีส่วนของการจัดแสดงงานแสง สี เสียง ตระการตา โดยมีการจัดเวที และมีการใช้พื้นที่ของโบราณสถานบางส่วนเป็นฉากในการแสดง อย่างรูปด้านล่างนี้ ก็เป็นรูปจำลองของหนุมาน ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นเมืองวานรของลพบุรีนั่นเอง




    
 ภายในงานจะมีของขายเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นผ้าไหม ผ้าซิ่นต่างๆ เห็นมีอยู่หลายร้านเลย และที่สำคัญในส่วนที่เป็นมุมของกิน ต้องมีการนำเงินในปัจจุบันมาแลกกับอัฐหรือพดด้วง เพื่อให้เข้ากันกับสมัยกรุงศรีอยุธยากันเลยทีเดียว

พดด้วงที่ต้องนำเงินมาแลกเพื่อซื้อสินค้าภายในงาน ( ในส่วนที่เป็นของกิน )



     แต่ด้วยความที่ในงานคนเยอะมาก เกรงว่าจะหาที่นั่งลำบาก มิ้วเลยเดินออกมาทานข้าวเย็นแถวทางรถไฟแทนค่ะ แถวนี้ของอร่อยเหมือนกัน แถมราคาถูกมากด้วย ( จำได้ว่าประมาณ 4 ปีที่แล้วที่มาออกฟิลด์ 5 วันที่ลพบุรี ไม่มีวันไหนที่ไม่ได้กินของอร่อยเลยค่ะ โดยเฉพาะมื้อเย็นที่มากินแถวทางรถไฟแทบทุกวัน )
นั่งทานผัดไทยไปทั้งชุดไทยแบบนี้แหละ เก๋ดี :)


     
พอทานเสร็จก็เริ่มจะดึกแล้ว มิ้วเลยเดินเข้าไปในงานต่อค่ะ  ซอยทางเข้าที่เดินเข้ามานั้นเบียดเสียดมาก มีของซื้อของขายตลอด 2 ข้างทางเลยค่ะ รูปด้านล่างนี้จะเห็นประตูทางเข้าพระนารายณ์ราชนิเวศน์อยู่ลิบๆ ค่ะ          




     เมื่อมาถึงบริเวณทางเข้า หน้าประตูและบริเวณโดยรอบมีการจัดไฟอย่างสวยงามค่ะ สมกับเป็นงานใหญ่ของที่นี่จริงๆ 



     เมื่อเข้ามาในงานแล้ว มิ้วก็เข้ามานั่งดูการแสดงที่กล่าวถึงประวัติศาสตร์ศาสตร์ในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ฯค่ะ โซนแรกมีการจัดอยู่หน้าหมู่ตึกสิบสองท้องพระคลังและตึกเลี้ยงต้อนรับราชทูต




     ฉากนี้เป็นฉากจำลองเหตุการณ์ในช่วงที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงมาประทับที่ลพบุรีในทุกๆ ปี เป็นเวลา 8-9 เดือน มีผู้ที่แสดงเป็นสมเด็จพระนารายณ์ฯ และบุคคลอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ ทั้งเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ท้าวทองกีบม้า พระเพทราชา หลวงสรศักดิ์ กรมหลวงโยธาทิพ และกรมหลวงโยธาเทพ เป็นต้น



     ฉากนี้เป็นการจำลองเรือสินค้าจากต่างชาติที่เข้ามาทำการติดต่อค้าขายกับทางกรุงศรีอยุธยา โดยมีบุคคลสำคัญในเหตุการณ์ตอนนี้คือ " เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ " ชายชาวกรีกผู้มารับราชการเป็นสมุหนายกในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ฯ



 

     และนี่คือฉากพระราชวังแวร์ซายน์ของฝรั่งเศส จำลองภาพเหตุการณ์ที่เจ้าพระยาโกษาธิบดี ( ปาน ) เป็นเอกอัครข้าราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช่วงนั้นตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ค่ะ



     และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คุณแฟนของมิ้วเก็บภาพมาได้ค่ะ ที่จริงภายในงานยังมีส่วนที่น่าสนใจอีกมาก สาวๆ คนไหนชอบหรืออยากแต่งชุดไทย แนะนำให้ไปงานนี้เลยค่ะ หลุดมาทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ในปีนี้งานจะจัดตั้งแต่วันที่ 13-21 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้นนะคะ ใครสนใจอยากจะไปก็นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาได้ ท่ารถจะอยู่ฝั่งตรงข้ามพระปรางค์สามยอด เลียบทางรถไฟค่ะ หรือถ้าใครชิลล์ๆ ไม่แคร์เรื่องระยะเวลาการเดินทางมากนัก แนะนำให้มาโดยรถไฟเลยค่ะ จากหัวลำโพงมาเรื่อยๆ อาจจะนาน แต่จะได้เก็บบรรยากาศระหว่างที่นั่งรถไฟแน่นอน 

     สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะคะ หากมีอะไรขาดตกบกพร่องตรงก็ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ค่ะ มีข้อสงสัยตรงไหนก็คอมเมนต์มาคุยกันได้นะคะ  บ๊ายบาย :)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น