วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สิวดีขึ้นแล้ว กำจัดจุดด่างดำและรอยจากการกดสิวกันต่อ มาดูกันว่ามีสกินแคร์ตัวไหนช่วยได้บ้าง






สำหรับคนที่ชอบดูแลตัวเอง การมีผิวสวยใสถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมาก ๆ แต่ความโชคดีตรงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับมิ้วค่ะ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมามิ้วเป็นสิวหนักมาก เลยพยายามหาไอเทมรักษาสิวมาโดยตลอด ช่วงหลัง ๆ มานี้ขยันไปกดสิวมากขึ้น แม้ว่าสิวจะน้อยลงไปมาก แต่ว่ามันก็ทิ้งซากอารยธรรมอันได้แก่รอยสิวฝากไว้บนใบหน้าของมิ้วด้วย วันนี้มิ้วเลยจะมาแชร์สกินแคร์ที่ใช้มาตลอดในช่วงนี้ให้ได้ชมกันค่ะ ช่วงนี้มีสิวบ้างเล็กน้อยเมื่อถึงวันนั้นของเดือน แต่ในขณะเดียวกันมิ้วก็ทำการรักษาเรื่องรอยสิวไปด้วยในตัวค่ะ

นี่คือสกินแคร์ทั้ง 8 ตัวที่มิ้วใช้มาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ มิ้วจะไล่เรียงจากการใช้งานตั้งแต่ตัวแรกไปจนถึงตัวสุดท้ายค่ะ แต่ตัวที่มิ้วอยากจะหยิบยกให้เป็นนางเอกของงานนี้ ก็คือเจ้าโทนเนอร์ เซรั่ม และครีมที่มาเป็นเซตเดียวกันจากแบรนด์ Oliv ค่ะ คือได้ลองใช้ตัวเซรั่มเดี่ยวๆ แล้วติดใจ เลยโดนป้ายยาให้ลองใช้แบบยกเซ็ทกันเลยทีเดียว จะมีตัวไหนบ้างนั้น เรามาชมกันเลย!




Oliv Moonlight Toner


เริ่มกันที่ตัวแรก Oliv Moonlight Toner มิ้วซื้อมาจากร้าน All About You ค่ะ เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยคืนความกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน ตอนซื้อพนักงานเล่าให้ฟังว่าเป็นแบรนด์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส ผลิตภัณฑ์ไลน์นี้เขาจะมีสารสกัดที่ช่วยยับยั้งและลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน แล้วก็ช่วยลดพวกจุดด่างดำ อย่างรอยสิว ฝ้า กระ ได้ด้วย ที่สำคัญคืออ่อนโยน มนุษย์เป็นสิวง่ายอย่างเรา ใช้ได้ ไม่วอแวกับผิวจนทำให้สิวขึ้นใหม่ ใช้แล้วผิวไม่ระคายเคือง และยังช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะได้ด้วย  


เนื้อโทนเนอร์เป็นน้ำ ออกสีชาใส ๆ ค่ะ ทุกครั้งที่ใช้งานมิ้วจะกดหัวปั๊มลงสำลีแผ่นออกมา 2 ครั้ง กลิ่นเขาจะออกแนวธรรมชาติ ไม่ได้หอมฉุนแบบที่เขาใส่น้ำหอมเยอะ ๆ คาดว่าน่าจะไม่มีน้ำหอมอยู่ในส่วนผสมเลยล่ะ เลยค่อนข้างมั่นใจว่าคนผิวแพ้ง่ายก็น่าจะใช้ได้ด้วยตามที่น้องพนักงานเขาบอกมา มิ้วเช็ดโทนเนอร์ตัวนี้หลังล้างหน้าด้วยโฟมและก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นทุกครั้ง รู้สึกสดชื่นมาก ๆ ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวค่ะ


ขวดนึงขนาด 150 ml. ราคา 1,380 บาท



Innisfree Green Tea Seed Serum




ตัวแรกที่มิ้วจะลงหลังจากใช้โทนเนอร์ก็คือเจ้าตัวนี้ค่ะ Green Tea Seed Serum หรือเซรั่มชาเขียวอันโด่งดังของ Innisfree นั่นเอง เน้นเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ผสานประสิทธิภาพของน้ำชาเขียว Beauty Green Tea ซึ่งมีกรดอะมิโนสูง เหมาะสำหรับภาวะการขนาดน้ำและความชุ่มชื้น


เนื้อเซรั่มออกสีขาวขุ่น มิ้วใช้ประมาณ 1-2 หยดวอร์มที่ฝ่ามือแล้วค่อย ๆ ทาบลงไปบนผิวหน้าค่ะ แอบมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย เรื่องความชุ่มชื้นต้องยกให้เขาเลย เพราะใช้คุณเขามาตั้งแต่เดือนพ.ค.แล้ว รู้สึกได้ว่าผิวดูอิ่มฟู มีความชุ่มชื้นมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ


ขนาด 80 ml. ราคา 1,000 บาท



BK Acne Serum Brightening Anti-Polution



อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเป็นสิวบ่อย ทุกวันนี้มิ้วก็ยังแอบมีสิวขึ้นในบางจุดค่ะ เลยต้องหาซื้อยาแต้มสิวเก็บไว้เพื่อความอุ่นใจ แรกเริ่มเดิมทีมิ้วลองซื้อ BK Acne Serum Brightening Anti-Polution แบบซองมาลองใช้แต้มสิวก่อนค่ะ ปรากฏว่าใช้แล้วชอบ คือสิวค่อย ๆ ยุบและแห้งลง เลยตัดสินใจซื้อแบบขวดมาใช้ซะเลย 

ล่่าสุดเขาออกแพ็กเกจใหม่มาเป็นหลอดแบบนี้ค่ะ เรียกได้ว่าก็ใช้มาตลอด ใช้หมดแล้วก็ซื้อใหม่ทุกครั้ง เพราะรู้สึกว่าหน้าเนียนขึ้น สิวขึ้นน้อยลงไปมากค่ะ ช่วงที่เป็นสิวหนัก ๆ ก็จะใช้เซรั่มตัวนี้ทาทั่วใบหน้าเลย อย่างเช่นตอนที่กดสิวมาได้สัก 1-3 วัน พอสิวน้อยลงก็แต้มตามจุดต่าง ๆ ที่ยังมีสิวหลงเหลืออยู่ (มิ้วชอบมีสิวบริเวณรอบปาก โดยเฉพาะช่วงคางค่ะ)


ขนาด 28 ml. ราคา 389 บาท



Oliv Moonlight Serum



มาถึงส่วนของเซรั่มอีกตัว Oliv Moonlight Serum อยู่ในเซตเดียวกันกับ Moonlight Toner ค่ะ เป็นตัวแรกของเซตที่มิ้วได้ลองแล้วติดใจ เลยเริ่มลองใช้ของแบรนด์นี้แบบจริงจัง เป็นเซรั่ม 2 in 1 สูตรเข้มข้น ซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดริ้วรอยไปพร้อม ๆ กัน รู้จักตัวนี้ครั้งแรกตั้งแต่ปีที่แล้ว คิดไว้ในใจว่าจะลองอยู่นาน พอมีโอกาสลองแล้ว เลยมีคำถามว่าเราไปอยู่ที่ไหนกันมา น่าจะเจอกันมานานแล้ว 5555 

เนื้อเซรั่มจะออกใส ๆ เป็นสีชา มิ้วใช้ครั้งนึง 1-2 หยด วอร์มที่ฝ่ามือแล้วนาบไปบนผิวหน้า จากนั้นก็ค่อย ๆ ตบให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวค่ะ ชอบตรงที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่มีกลิ่นน้ำหอม บวกกับสารสกัดต่าง ๆ ที่มาจากธรรมชาติล้วน ๆ เลยมั่นใจเลยว่าปลอดภัยกว่า Whitening ตัวอื่น ๆ ระยะแรก ๆ ที่ใช้อาจจะสังเกตอะไรไม่ได้มากนัก แต่พอเริ่มเข้าสัปดาห์ที่ 2 ก็รู้สึกว่าจุดด่างดำต่าง ๆ ดูจางลง ผิวหน้าแอบดูสว่างขึ้นด้วย คงเป็นเพราะเจ้าเซรั่มตัวนี้ ก็เลยไปตำตัวอื่นๆ ของแบรนด์นี้ต่อค่ะ


ขนาด 30 ml. ราคา 2,280 บาท




ORIENTAL PRINCESS 
Natural Power C Miracle Brightening Complex Power Boosting Serum




นอกจากจะใช้ไวท์เทนนิ่งในการลดเลือนรอยสิวแล้ว มิ้วยังใช้ไอเทมที่เป็นวิตามินซีมาช่วยด้วย อย่างเจ้าตัวนี้ Natural Power C Miracle Brightening Complex Power Boosting Serum จาก Oriental Princess เป็นเซรั่มเนื้อนุ่ม มีสารสกัดจากวิตามินซี ซึ่งช่วยปรับผิวให้นวลเนียนกระจ่างใส มีน้ำมีนวล และกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวตามธรรมชาติ มิ้วเคยใช้เจ้าตัวนี้สมัยเป็นนักศึกษาค่ะ ตอนนั้นเพื่อนทักว่าหน้าใสมาก บวกกับตอนนั้นไม่ค่อยมีสิวมากนักเท่ากับตอนเรียนจบ นี่เป็นการกลับมาซื้อใช้อีกครั้งในรอบหลายปี แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เขายังคงกลิ่นหอมของส้ม เอามาทาหลังลงเซรั่มของ Oliv แล้ว เห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นจริง ๆ ว่าผิวดูใสขึ้น จุดด่างดำค่อย ๆ จางลงพอใช้ไปอย่างต่อเนื่องค่ะ ผลลัพธ์ของการกลับมาใช้เซรั่มตัวนี้จึงถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก


ขนาด 60 ml. ราคา 475 บาท





Oliv Moonlight Face Care




เข้าสู่ขั้นตอนของการลงมอยเจอร์ไรเซอร์ Oliv Moonlight Face Care คือหนึ่งในไอเทมที่ชอบมาก ๆ ณ จุดนี้ อยู่ในเซตเดียวกับ Moonlight Toner และ Serum เลยค่ะ 

เนื้อครีมเป็นสีขาว ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายค่ะ วันแรก ๆ ก็ยังดูไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปอาทิตย์นึงแล้ว ก็เห็นว่าจุดด่างดำลดเลือนลงจริง ๆ รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นด้วย คงเป็นเพราะสกินแคร์ไลน์ Moonlight ของ Oliv เขามีสารช่วยต่อต้านแบคทีเรีย ช่วยลดการเกิดสิว แล้วยังปกป้องผิวจากมลภาวะ จริงๆ ก็ยังช่วยเรื่องอื่นอีก ตามที่พนักงานแนะนำมา แต่เอาจริง มิ้วจำได้ไม่หมดหรอก 5555  มัวแต่หมกมุ่นกับปัญหารอยสิว 


ขนาด 50 ml. ราคา 2,180 บาท


SKINPLANT Argan Oil




ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามิ้วเริ่มใช้พวก Face Oil มากขึ้น ช่วงแรก ๆ ก็มีคำถามอยู่เหมือนกันว่าเราเป็นคนผิวผสมถึงมันมาก แถมสิวขึ้นบ่อย ใช้ออยล์แล้วมันจะอุดตันหรือเปล่า? แต่มิ้วโชคดีที่มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนช่วยชี้แนะค่ะว่าการใช้ออยล์มันจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ โดยลงเป็นตัวสุดท้ายหลังจากลงสกินแคร์ทุกตัวหมดแล้ว  SKINPLANT Argan Oil คือ Face Oil ตัวล่าสุดที่มิ้วใช้ค่ะ ออยล์ตัวนี้ผ่านกระบวนการบีบเย็น อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3 และการสกัดสำคัญอื่น ๆ ที่ได้จากธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างตาข่ายผิวชั้นในให้แข็งแรง ปรับสภาพผิวให้มีความสมดุล เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมัน ลดการอุดตันและอักเสบของผิวอีกด้วย ที่สำคัญคือเขาใช้ได้กับทุกสภาพผิว และทุกส่วนของร่างกายเลยค่ะ

ปกติเมื่อลงสกินแคร์ไปครบทุกตัวแล้ว มิ้วจะใช้ออยล์ตัวนี้ 1 หยด วอร์มบนฝ่ามือ แล้วก็ชโลมลงบนผิวหน้า ตอนเช้าจะหยดในปริมาณที่น้อยลงหน่อย เพราะกลัวว่าหน้าจะดูมันวาวมากเกินไป ส่วนตอนกลางคืนมิ้วจะใช้ 1 หยดเต็ม ๆ เลยค่ะ เวลาที่รู้สึกว่าฝ่ามือยังมีความมันอยู่ มิ้วก็จะลูบผมเพื่อบำรุงเส้นผมไปในตัว สำหรับผลลัพธ์เรื่องผิว รู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรงและอิ่มฟูขึ้นมากจริง ๆ ค่ะ ตรงที่เป็นสิวไม่ได้หายขาดทันทีในชั่วข้ามคืน แต่มันก็ช่วยให้หัวสิวแห้งลงและค่อย ๆ หลุดออกไปเอง ส่วนตรงบริเวณที่เป็นสิวอุดตันก็จะค่อย ๆ ออกหัวขึ้นมาให้จัดการได้ง่ายขึ้นค่ะ


ขนาด 20 ml. ราคา 695 บาท 



Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF50+ PA+++



มาถึงไอเทมสุดท้ายที่ขอมารีวิวแถมให้อีกนิดหน่อย เป็นกันแดดสัญชาติญี่ปุ่นค่ะ Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF50+ PA+++ มีพี่ที่รู้จักไปญี่ปุ่นแล้วเขาซื้อมาฝาก ช่วงใกล้ ๆ กับที่กันแดดตัวนี้มีวางขายใน Watson พอดี เป็นกันแดดกึ่งเมคอัพเบส ผสมไฮยาลูรอนและวิตามินซี เนื้อกันแดดเป็นสีม่วงอ่อน ทำให้ใบหน้าสว่างขึ้นและยังช่วยบำรุงผิวไปในตัว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมาก ๆ และสามารถทาทับเมคอัพในระหว่างวันได้ด้วย หลอดใหญ่พอสมควร ใช้ได้นานเลยทีเดียวค่ะ


ขนาด 80 ml. ราคา 480 บาท (ไปเช็คราคาที่ Watson มาค่ะ)

💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝

รีวิวครบทุกตัวแล้ว คราวนี้อยากให้ดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนผิวของมิ้วในช่วงตลอด 20 วันที่ผ่านมากันค่ะ เริ่มจากหน้าบริเวณด้านซ้ายก่อน โดยวันที่ 1 คือวันที่มิ้วเพิ่งไปกดสิวมาค่ะ จะเห็นรอยกดแดง ๆ อยู่ เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นพอผ่านไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ รอยสิวค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ พอเข้าสู่วันที่ 14-20 รู้สึกว่าผิวหน้าดูสว่างขึ้นจริง ๆ ค่ะ




มาดูหน้าฝั่งขวาบ้าง ช่วงที่ผ่านมาตรงแก้มที่มีสิวค่อนข้างเยอะค่ะ พอกดสิวไปในวันแรกก็เห็นรอยกดแดง ๆ ชัดเลย เข้าสู่วันที่ 4 ผิวดูเรียบเนียนขึ้นแต่ก็ยังทิ้งรอยสิวเอาไว้ พอเข้าช่วงวันที่ 14-20 รู้สึกได้ว่ารอยสิวตรงแก้มขวามันค่อย ๆ จางลงค่ะ





จากการใช้สกินแคร์ทุกตัวตามที่เล่ามา ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจมากค่ะ รู้สึกเหมือนได้ผิวสมัยเป็นวัยรุ่นกลับมาอีกครั้ง ประทับใจตรงที่สิวขึ้นน้อยลง แถมรอยสิว กระ และจุดด่างดำก็ลดเลือนลงด้วย ใช้มาตลอดและติดตามดูผลไปด้วย ไม่ได้เห็นผลเร็วจนเวอร์วัง แต่ก็ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้จริง ๆ ค่ะ


อย่างรูปนี้แต่งหน้าก็จริง แต่ก็ไม่ได้ใช้รองพื้นเลย 
แถมใช้คอนซีลเลอร์น้อยมาก เฉพาะบริเวณใต้ตาเท่านั้น ^^



ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์ดูแลผิวที่อยากมาแชร์ให้ได้ชมกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่อยากได้ผิวสวยใสกลับมาอีกครั้งนะคะ แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น