โดยปกติแล้วมิ้วจะเป็นคนที่ไม่ได้เน้นการใช้เครื่องสำอางที่เป็นแบบไฮเอนด์มากนัก จะซื้อมาใช้ก็ต่อเมื่อชอบจริง ๆ แต่เมื่อมิ้วได้รับการติดต่อให้มาเข้าร่วม เวิร์กช็อปกับทางจีบัน ในงาน Jeban X Lancome #MyIdoleSkin เพื่อทดลองผลิตภัณฑ์จาก Lancome นี่จึงเป็นโอกาสดี ๆ อีกครั้งที่จะได้ลองอะไรใหม่ ๆ ที่เราเองก็ยังไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่มิ้วได้มาทดลองใช้ก็คือรองพื้นรุ่น Teint Idole Ultra Wear Foundation ที่เขาได้ผลิตเฉดสีใหม่ ๆ ออกมาถึง 12 เฉดค่ะ
ซึ่งก่อนวันที่จะไปเวิร์กช็อป มิ้วก็ได้อีเมล์แจ้งมาให้เลือกสีรองพื้นของตัวเองตามภาพนี้ค่ะ
ก็เป็นเรื่องเลยสิคะทีนี้ พยายามเทียบสีอยู่นานว่าตัวเองควรใช้เฉดสีประมาณไหน ตัวเองดูไม่พอ ให้แฟนช่วยดูด้วย เพื่อความเซฟก็เลยเลือก BO-02 ไป เป็นเฉดสีกลาง ๆ ค่อนไปทางอันเดอร์โทนเหลืองค่ะ
เมื่อไปถึงที่งานก็ได้พูดคุยถึงวิธีการเลือกเฉดสี ประเภทของรองพื้น และได้ลองหาอันเดอร์โทนของตัวเองค่ะ จากที่เคยคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนที่มีอันเดอร์โทนเหลือง แต่หลังจากที่ได้ลองเครื่องเทสต์ไป ก็พบว่าตัวเองมีผิวไปทางโทนกลาง ๆ ค่อนไปทางชมพูค่ะ
ตอนเทสต์สีผิวหน้าตามันก็จะพริ้ม ๆ หน่อย ><
ณ จุดนี้ปฏิบัติการการตามหาเฉดสีรองพื้นของตัวเองจึงเกิดขึ้น ทีแรกที่เลือกสี Bo-02 กลับกลายเป็นว่ามันเข้มไป ทีนี้เลยต้องไปทางเฉด Po แทน
ซึ่งในท้ายที่สุด มิ้วก็ได้เฉดสีรองพื้นที่ตัวเองต้องการ นั่นก็คือเฉดสี Po-01 ค่ะ ตอนที่เทสต์รองพื้น ลบหน้าไปเกือบครึ่งหน้า ณ ตอนนั้นพี่อาย @fateye_slim ยังบอกเลยว่าไม่คิดว่าจะมีใครได้สีนี้ เพราะมันเป็นสีที่ค่อนข้างจะขาวมาก
หลังจากได้เฉดสีรองพื้นที่ต้องการแล้ว 3-4 วันถัดมามิ้วก็มีโอกาสได้ไปร่วมงานอีเวนท์ของเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง เลยได้โอกาสลองใช้รองพื้นตัวนี้แบบเต็ม ๆ เลย
ในฐานะของคนที่ใช้รองพื้นกับตัวเองไม่บ่อยนัก แต่หลังจากที่ได้ใช้เจ้า Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation แล้ว ก็คิดเดี๋ยวนั้นเลยว่าต้องรีวิวให้ได้ อ่านและดูไปเรื่อย ๆ จะรู้เหตุผลของมิ้วเองค่ะว่าทำไม? :)
หลังจากนี้เราไปชมรีวิวกันเลยดีกว่า...
Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation เป็นรองพื้นเนื้อที่ไม่ได้ออกเป็นน้ำเสียทีเดียว (โดยส่วนตัวมิ้วไม่ค่อยปลื้มรองพื้นเนื้อน้ำค่ะ รู้สึกไม่เข้ากับจมูกมัน ๆ และรูขุมขนกว้าง ๆ ตรงจมูกของตัวเองเท่าไหร่) ให้การปกปิดสูงแต่เบาสบายผิว ติดทนนาน 24 ชั่วโมง ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 38 PA+++ (ของเดิมมี SPF 15 เท่านั้น) มีคุณสมบัติคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ที่สำคัญคือเขาได้พัฒนาสูตรให้มันมีความชุ่มชื่น ไม่แมตต์แห้งจนเกินไปค่ะ
และนี่ก็คือรองพื้นขวดที่ได้มาจากการเวิร์กช็อปในครั้งนั้น
ลองสวอชที่แขนดู มีความเกลี่ยง่ายมากค่ะ สักพักเนื้อรองพื้นนางกลืนไปกับผิวไปแบบไม่ต้องทาแป้งตามเลย ณ จุดนี้คือเซอร์ไพร์สมาก
ลองมาปาดลงที่ขากรรไกรดู ก่อนอื่นต้องบอกนิดนึงนะคะว่ามิ้วเป็นคนที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ ใบหน้ามีจุดด่างดำจากกระและรอยสิวบ้าง และช่วงลำคอก็ค่อนข้างขาวกว่าหน้าด้วย พอลงรองพื้นไปปุ๊บ เฮ้ย!มันเนียนขึ้นแบบดูธรรมชาติมาก...ทำได้ไงอะ? ที่สำคัญคือทาแล้วไม่รู้สึกว่าระคายผิว ไม่ได้ดูแมตต์มาก ยังรู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้นดีอยู่ ตรงนี้คือชอบจริง ๆ
นี่คือทารองพื้นไปครึ่งหน้าค่ะ ยังไม่มีการทาคอนซีลเลอร์และตบแป้งใด ๆ ตามลงไปทั้งสิ้น ดูแล้วให้สังเวชใจในหน้าสดของตัวเองยิ่งนัก T_T
เทียบเป็น Before & After ก่อนทารองพื้น กับตอนที่ทารองพื้นไปแล้ว ณ จุดนี้อาจจะดูขาววอกเป็นจูออนไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ดูเวอร์มาก เพราะยังไม่ได้แต่งหน้า ต้องไปเห็นครีเอทลุคให้ดูกันก่อน!
และหลังจากที่เมคอัพแล้ว มันก็จะออกมาประมาณนี้แหละค่ะ รู้สึกว่าผิวหน้ามีความเฮลท์ตี้มากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คงเพราะว่าช่วงหลัง ๆ ผิวหน้าดีขึ้นมากด้วย ^^
ทดสอบความกันน้ำดู ก็พบว่ามันคือเรื่องจริง! เมคอัพบนใบหน้ายังคงเป๊ะ! ติดทนดี ไม่หลุดหายไปไหน
หลังจากซับหน้าออกเมคอัพก็ยังอยู่ดี อาจจะมีตรงขนตาที่ไม่เหลือความงอนงามแล้ว แต่ก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไร
ง่าย ๆ แบบไม่ต้องกล่าวอะไรมากเลยว่าเป็นรองพื้นที่สอบผ่านทุกเรื่องทุกกระบวนการจริง ๆ ตั้งแต่เนื้อสัมผัส การปกปิด ควบคุมความมัน กันน้ำ ณ จุดนี้ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางจึงเป็นรองพื้นที่ฮิตติดลมบน มีคนหลงรักมากมาย (รวมถึงตัวมิ้วเองด้วย) ราคาอาจจะสูงอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพและผลลัพธ์ที่ได้ ยังไงก็คุ้มค่า หมดขวดนี้แล้วคงต้องตามไปซื้อในเคาน์เตอร์กันต่อแน่ ๆ (เก็บเงินวนไปค่า ^^")
ทุกอย่างนี้เป็นความคิดเห็นของมิ้วคนเดียว อย่าเชื่อมิ้วทั้งหมด ต้องไปลองไปพิสูจน์กับตัวเอง แล้วจะได้รู้ว่าเราเข้ากับสิ่งสิ่งนี้ได้ดีมั้ย? สุดท้ายก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ บ๊ายบายค่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น