ยอมรับเลยว่าที่ผ่านมาหมดกำลังใจมาก เป็นช่วงวิกฤตอย่างแท้จริง มีทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ พอตรงนี้หาย ก็ไปขึ้นที่อื่นแทน เซ็งสดอะไรสุด
ตลอดเวลาเกือบ 4 ปีที่เรียนจบมาเลยต้องพยายามรักษาสิวพร้อมบำรุงผิวหน้าให้ดีอยู่ตลอดเวลาค่ะ เจอมาหมดที่ใช้แล้วดี แล้วก็เห่อหนักกว่าเดิม ยอมรับว่าผิวเพิ่งจะกลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปีนี้เอง
ผิวเพิ่งจะกลับมาปกติในช่วงไม่นานมานี้ มีสิวฮอร์โมนเล็กน้อยเหมือนสมัยที่ยังเรียนมหาลัยค่ะ
วันนี้มิ้วเลยจะขอมาทลายกรุไอเทมบำรุงผิวทั้งหมดที่ใช้มาในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2018 นี้ มีทั้งสกินแคร์และอาหารเสริมค่ะ ซึ่งของที่มิ้วใช้นั้นมีราคากลาง ๆ ไม่แพงมากค่ะ ประมาณหลักร้อย-พันต้น ๆ เท่านั้น ( ก็อยากใช้ของดีนะ แต่ตังค์ไม่ค่อยจะมี...เศร้า T_T )อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะว่ามีอะไรบ้าง ตามมาชมไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ :)
แต่ถ้าใครขี้เกียจดูเป็นวิดีโอ มาชมเป็นภาพและคำอธิบายกันค่ะ
เริ่มที่ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางกันก่อนเลย
Makeup Remover
นี่คือสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าเป็นประจำ เพราะแต่งหน้าสวยเช้งออกมาขนาดไหน เราก็ยังต้องทำความสะอาดผิวในทุก ๆ วัน สำหรับ Makeup Remover ที่มิ้วใช้ก็มีอยู่หลายแบบและหลายสูตรค่ะ
1. Softymo Speedy Cleansing Oil
- คลีนซิ่งออยล์สัญชาติญี่ปุ่นซึ่งสามารถล้างเมคอัพได้อย่างล้ำลึก ใช้ง่าย ๆ แค่นวดวน ๆ จนเข้าที่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ดูแล้วก็อาจจะเหมือนคลีนซิ่งออยล์ทั่วไป แต่ความพิเศษของสูตรนี้ก็คือนางสามารถใช้ได้ทั้งตอนที่หน้าเปียกและหน้าแห้งค่ะ
2. GINO McCRAY The Professional Makeup Cleansing Gel
- คลีนซิ่งเจลสูตรแบมบู วิธีการใช้ก็เหมือนการล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์ทั่วไปเลยค่ะ นวดวน ๆ ตอนผิวหน้าแห้ง ๆ จนพอใจแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด มีกลิ่นหอม ๆ สดชื่น สามารถล้างเครื่องสำอางหนัก ๆ ได้ดีทีเดียว
- คลีนซิ่งเจลสูตรแบมบู วิธีการใช้ก็เหมือนการล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์ทั่วไปเลยค่ะ นวดวน ๆ ตอนผิวหน้าแห้ง ๆ จนพอใจแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด มีกลิ่นหอม ๆ สดชื่น สามารถล้างเครื่องสำอางหนัก ๆ ได้ดีทีเดียว
3. Biore Perfect Cleansing Water Acne Care
- ทุกวันนี้ Micellar Water หรือคลีนซิ่งสูตรน้ำเป็นสิ่งที่สาว ๆ ใช้กันแทบจะทั่วบ้านทั่วเมืองไปแล้ว อย่างตัวนี้จากบิโอเร เป็นสูตรน้ำเกลือรักษาสิวโดยเฉพาะค่ะ มิ้วเช็ดแล้วไม่แสบหน้า รู้สึกได้ว่าหน้าสะอาดขึ้นจริง ๆ
4. Nivea Acne Care Makeup Clear Micellar Water
- Micellar Water จากนีเวียเป็นอีกตัวที่อยากแนะนำเพราะเข้าขั้น " ถูกและดี " จริง ๆ ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับคนที่มีผิวมันและเป็นสิวบ่อยค่ะ ใช้แล้วตอบโจทย์มาก ๆ เพราะไม่ทำให้แสบหน้า ล้างเมคอัพออกได้ดีมาก ไม่เปลืองสำลีมากนัก ( มิ้วใช้ประมาณ 6 แผ่นสำหรับตอนแต่งหน้าหนัก ๆ ค่ะ )
5. Maybelline New York Eye + Lip Remover
- เป็นตัวที่ใช้มาตั้งแต่เขาออกผลิตภัณฑ์มาใหม่ ๆ เลย ( ตอนนั้นเรียนปี 2 เห็นจะได้ ) สำหรับรีมูฟเวอร์ลบเมคอัพรอบดวงตาและริมฝีปากจากเมย์เบอลีน จัดเป็นไอเทม " ถูกและดี " ที่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง ใช้มากี่ขวดก็ไม่รู้ค่ะ เคยแอบปันใจไปใช้ตัวอื่น สุดท้ายก็กลับมาตายรังทุกครั้ง
Facial Wash
ล้างเครื่องสำอางอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำความสะอาดกันอีกขั้นตอนด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าค่ะ
1. Yves Rocher Deep Cleansing Gel
- เริ่มด้วยเจลล้างหน้าจากอีฟ โรเช่ ตัวนี้เป็นสูตรอ่อนโยน มีกลิ่นคาโมมายล์หอมสดชื่น รู้สึกแอบผ่อนคลายผิวเบา ๆ ( น่าจะเป็นเพราะกลิ่น ) เป็นตัวที่มิ้วชอบเอามาล้างหน้าในทุก ๆ เช้าค่ะ
- เริ่มด้วยเจลล้างหน้าจากอีฟ โรเช่ ตัวนี้เป็นสูตรอ่อนโยน มีกลิ่นคาโมมายล์หอมสดชื่น รู้สึกแอบผ่อนคลายผิวเบา ๆ ( น่าจะเป็นเพราะกลิ่น ) เป็นตัวที่มิ้วชอบเอามาล้างหน้าในทุก ๆ เช้าค่ะ
2. OCEAN SKIN Speedy Daily Balance Anti-Acne Foam
- เริ่มใช้โฟมล้างหน้าตัวนี้เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมานี้เองค่ะ เป็นสูตรสำหรับรักษาสิวก็เลยเอามาลองดู บีบออกมาเนื้อโฟมเป็นสีดำ เวลาถูกับหน้าฟองจะออกเทา ๆ ค่ะ เพราะมันมีส่วนผสมของชาโคล ล้างแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวสะอาดจริง ๆ ที่สำคัญไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย เหมือนมันยังช่วยรักษาความชุ่มชื่นในผิวอยู่
- เริ่มใช้โฟมล้างหน้าตัวนี้เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมานี้เองค่ะ เป็นสูตรสำหรับรักษาสิวก็เลยเอามาลองดู บีบออกมาเนื้อโฟมเป็นสีดำ เวลาถูกับหน้าฟองจะออกเทา ๆ ค่ะ เพราะมันมีส่วนผสมของชาโคล ล้างแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวสะอาดจริง ๆ ที่สำคัญไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย เหมือนมันยังช่วยรักษาความชุ่มชื่นในผิวอยู่
3. Biore 2 in 1 Makeup Remover Foam
- ใช้มาหลายหลอดมากสำหรับโฟมล้างหน้าตัวนี้ เวลาที่ต้องไปต่างจังหวัดหรือไปพักค้างแรมที่ไหนมิ้วก็จะใช้ตัวนี้เพียงตัวเดียวล้างหน้าเลยค่ะ ชอบตรงที่มันล้างเมคอัพออกจริง ๆ หรือวันไหนที่ไม่ได้แต่งหน้าก็ใช้เหมือนกัน เพราะเราก็ยังต้องล้างกันแดดออกก่อน อย่างเช่นเวลาไปฟิตเนสค่ะ
4. Biore Speedy Micellar Cleansing Foam
- เพิ่งเจอมาเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เป็นโฟมล้างหน้าสูตรใหม่ที่พัฒนามาจากตัวที่แล้ว ( Biore 2 in 1 Makeup Remover Foam ) คือจริง ๆ โฟมรุ่นนี้มี 3 สูตร มิ้วเลือกสูตรรักษาสิวมาใช้ค่ะ ลองใช้ครั้งแรกก็เวิร์กเลย เพราะมันล้างเมคอัพได้จริงแฮะ ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย แถมยังได้ชื่อว่าเป็นสูตร Acne Care อีก แบบนี้มีซื้อต่อแน่ ๆ
Toner + Lotion
เริ่มต้นขั้นตอนของการเตรียมผิวหน้า พร้อมเช็คความสะอาดของผิวด้วยโทนเนอร์ และบำรุงผิวเป็นชั้นแรกด้วยโลชั่นน้ำตบ
1. Yves Rocher Clarifying Toner
- ตัวนี้เป็นโทนเนอร์สูตรรักษาสิวค่ะ อาจจะไม่เหมือนโทนเนอร์ธรรมดาที่เขาจะเป็นเนื้อน้ำ เพราะตัวนี้เนื้อนางจะออกเจลใส ๆ มีกลิ่นหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ เช็ดกับสำลีแรก ๆ อาจจะหนืดหน่อยเพราะไม่ชิน มิ้วชอบเทลงบนสำลีก่อน แล้วแต้ม 5 จุดที่หน้า จากนั้นจึงค่อย ๆ เช็ด ที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้โทนเนอร์กระจายไปอย่างทั่วถึงค่ะ
2. Melano CC Vitamin C Lotion
- ปกติมิ้วไม่ค่อยใส่ใจเรื่องผิวขาวอะไรมากมาย เพราะเป็นคนผิวขาวโดยธรรมชาติ แต่ที่เลือกน้ำตบตัวนี้เพราะเห็นว่าเน้นวิตามินซี อีกอย่างไม่ได้ใช้น้ำตบมานาน เลยอยากหาอะไรที่ช่วยบำรุงได้ล้ำลึกกว่าเดิม เลยตัดสินใจเลือกตัวนี้ค่ะ ตอนแรกไม่ได้หวังผลอะไรมาก แต่เกินคาด! ใช้มาได้เดือนนึงรู้สึกว่าร่องรอยอารยธรรม รอยสิวต่าง ๆ มันเริ่มจางลงค่ะ กลายเป็นว่าจากที่ไม่จริงจัง เห็นทีต้องซื้อต่อแล้วล่ะมั้ง อิอิ
***ที่เห็นถ่ายสำลีมาด้วย เพราะ AIME Facial Cotton คือสำลีที่ใช้อยู่เป็นประจำค่ะ เนื้อนุ่มมาก เช็ดแล้วฟิน ไม่บาดหน้าเลย
Moisturizer
1. Yves Rocher Elixir Jeunesse Double Action Essence
- เป็นเซรั่มสายเขียวที่ต้องซื้อแล้วซื้ออีก กี่ขวดแล้วก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน ติดใจตั้งแต่ตอนที่นางเปิดตัวมาใหม่ ๆ เลย เซรั่มจากอีฟ โรเช่ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับฟื้นฟูและปกป้องผิวจากมลภาวะ ใช้แล้วรู้สึกเลยว่าสดชื่น รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ช่วงไหนนอนดึกมาก ๆ รู้สึกได้เลยค่ะว่าผิวหน้าไม่เหี่ยว แถมยังมีกลิ่นหอมด้วย ตอนทานี่ถึงกับฟิน
2. Amira Pure Argan Milk
- จัดว่าเป็นไอเทมกู้ชีพอีกหนึ่งตัวสำหรับโลชั่นน้ำนมตัวนี้ มิ้วเริ่มใช้ช่วงปลายเดือนกุมภาที่ผ่านมาค่ะ นางให้ความชุ่มชื้นดีมาก ไม่มีกลิ่นน้ำหอมใด เรียกว่าคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
3. Amira 100% Pure Organic Argan Oil
- หลายคนที่มีผิวผสมหรือผิวมันอาจจะกลัวสิ่งที่เรียกว่าออยล์ แต่อย่าเพิ่งวิตกไปค่ะ เพราะออยล์ที่มิ้วมันคืออาร์แกนออยล์ที่ช่วยฟื้นฟูผิว รักษาความชุ่มชื้น ลดรอยแดงรอยดำ ที่สำคัญคือทำให้สิวยุบและยังช่วยควบคุมความมันด้วย! อันนี้จริงค่ะ เพราะมิ้วชอบนำมาใช้ตอนกลางคืนหลังจากทาเซรั่ม โลชั่นอะไรเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ตื่นมารู้สึกได้ว่าหน้านุ่มขึ้นจริง ๆ และระหว่างวันหน้ามันน้อยลงด้วย
***ใช้ตอนกลางคืน หยดลงบนฝ่ามือสัก 2-3 ปั๊ม วอร์มที่มือก่อน แล้วค่อยลูบลงบนผิวหน้านะคะ
Acne Care
เมื่อเป็นสิวบ่อยดีนัก ก็ต้องมาพักพิงยาแต้มสิว และมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรรักษาสิวกันสักหน่อย
1. Tomei Anti-Acne Cream
- ยาแต้มสิวชนิดครีม ใช้ทาพวกสิวที่ไม่มีหัว ช่วยให้สิวยุบ แต่เม็ดที่อุจฉกรรจ์มาก ๆ ก็ไม่ยุบนะ T_T
2. Tomei Clindai Gel
- เจลแต้มสิว เป็นเนื้อใส ๆ เอามาทาพวกที่ขึ้นหัวออกมาแล้ว อย่างเช่นสิวอักเสบและสิวหัวหนอง
3. Kiehlis Blue Herbal Moisturizer
- เจลบำรุงผิวสูตรรักษาสิวโดยเฉพาะ ทำให้สิวยุบไปเยอะเลยค่ะ แต่ก็แอบมีข้อเสียตรงที่พอเอามาทาทั้งหน้าแล้วทาอย่างอื่นทับตามลงไป เนื้อมันออกมาเป็นขุย ๆ เหมือนขี้ไคลเลย อันนี้ไม่เวิร์ก ทุกวันนี้เลยเอาเน้นทาตามจุดที่เป็นสิวแทนค่ะ
Sun Care
แค่ไม่ทากันแดดก็ทำให้มีสิว ผิวเหี่ยวเกิดรอยย่นได้แล้ว ร้ายไปกว่านั้นคืออาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้!!! ชักจะน่ากลัวแล้ว...งั้นขอไปในส่วนของไอเทมกันแดดกันต่อเลยค่ะ
- เพิ่งเจอมาเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เป็นโฟมล้างหน้าสูตรใหม่ที่พัฒนามาจากตัวที่แล้ว ( Biore 2 in 1 Makeup Remover Foam ) คือจริง ๆ โฟมรุ่นนี้มี 3 สูตร มิ้วเลือกสูตรรักษาสิวมาใช้ค่ะ ลองใช้ครั้งแรกก็เวิร์กเลย เพราะมันล้างเมคอัพได้จริงแฮะ ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วย แถมยังได้ชื่อว่าเป็นสูตร Acne Care อีก แบบนี้มีซื้อต่อแน่ ๆ
Toner + Lotion
เริ่มต้นขั้นตอนของการเตรียมผิวหน้า พร้อมเช็คความสะอาดของผิวด้วยโทนเนอร์ และบำรุงผิวเป็นชั้นแรกด้วยโลชั่นน้ำตบ
1. Yves Rocher Clarifying Toner
- ตัวนี้เป็นโทนเนอร์สูตรรักษาสิวค่ะ อาจจะไม่เหมือนโทนเนอร์ธรรมดาที่เขาจะเป็นเนื้อน้ำ เพราะตัวนี้เนื้อนางจะออกเจลใส ๆ มีกลิ่นหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ เช็ดกับสำลีแรก ๆ อาจจะหนืดหน่อยเพราะไม่ชิน มิ้วชอบเทลงบนสำลีก่อน แล้วแต้ม 5 จุดที่หน้า จากนั้นจึงค่อย ๆ เช็ด ที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้โทนเนอร์กระจายไปอย่างทั่วถึงค่ะ
2. Melano CC Vitamin C Lotion
- ปกติมิ้วไม่ค่อยใส่ใจเรื่องผิวขาวอะไรมากมาย เพราะเป็นคนผิวขาวโดยธรรมชาติ แต่ที่เลือกน้ำตบตัวนี้เพราะเห็นว่าเน้นวิตามินซี อีกอย่างไม่ได้ใช้น้ำตบมานาน เลยอยากหาอะไรที่ช่วยบำรุงได้ล้ำลึกกว่าเดิม เลยตัดสินใจเลือกตัวนี้ค่ะ ตอนแรกไม่ได้หวังผลอะไรมาก แต่เกินคาด! ใช้มาได้เดือนนึงรู้สึกว่าร่องรอยอารยธรรม รอยสิวต่าง ๆ มันเริ่มจางลงค่ะ กลายเป็นว่าจากที่ไม่จริงจัง เห็นทีต้องซื้อต่อแล้วล่ะมั้ง อิอิ
***ที่เห็นถ่ายสำลีมาด้วย เพราะ AIME Facial Cotton คือสำลีที่ใช้อยู่เป็นประจำค่ะ เนื้อนุ่มมาก เช็ดแล้วฟิน ไม่บาดหน้าเลย
Moisturizer
1. Yves Rocher Elixir Jeunesse Double Action Essence
- เป็นเซรั่มสายเขียวที่ต้องซื้อแล้วซื้ออีก กี่ขวดแล้วก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน ติดใจตั้งแต่ตอนที่นางเปิดตัวมาใหม่ ๆ เลย เซรั่มจากอีฟ โรเช่ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับฟื้นฟูและปกป้องผิวจากมลภาวะ ใช้แล้วรู้สึกเลยว่าสดชื่น รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ช่วงไหนนอนดึกมาก ๆ รู้สึกได้เลยค่ะว่าผิวหน้าไม่เหี่ยว แถมยังมีกลิ่นหอมด้วย ตอนทานี่ถึงกับฟิน
2. Amira Pure Argan Milk
- จัดว่าเป็นไอเทมกู้ชีพอีกหนึ่งตัวสำหรับโลชั่นน้ำนมตัวนี้ มิ้วเริ่มใช้ช่วงปลายเดือนกุมภาที่ผ่านมาค่ะ นางให้ความชุ่มชื้นดีมาก ไม่มีกลิ่นน้ำหอมใด เรียกว่าคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
3. Amira 100% Pure Organic Argan Oil
- หลายคนที่มีผิวผสมหรือผิวมันอาจจะกลัวสิ่งที่เรียกว่าออยล์ แต่อย่าเพิ่งวิตกไปค่ะ เพราะออยล์ที่มิ้วมันคืออาร์แกนออยล์ที่ช่วยฟื้นฟูผิว รักษาความชุ่มชื้น ลดรอยแดงรอยดำ ที่สำคัญคือทำให้สิวยุบและยังช่วยควบคุมความมันด้วย! อันนี้จริงค่ะ เพราะมิ้วชอบนำมาใช้ตอนกลางคืนหลังจากทาเซรั่ม โลชั่นอะไรเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ตื่นมารู้สึกได้ว่าหน้านุ่มขึ้นจริง ๆ และระหว่างวันหน้ามันน้อยลงด้วย
***ใช้ตอนกลางคืน หยดลงบนฝ่ามือสัก 2-3 ปั๊ม วอร์มที่มือก่อน แล้วค่อยลูบลงบนผิวหน้านะคะ
Acne Care
เมื่อเป็นสิวบ่อยดีนัก ก็ต้องมาพักพิงยาแต้มสิว และมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรรักษาสิวกันสักหน่อย
1. Tomei Anti-Acne Cream
- ยาแต้มสิวชนิดครีม ใช้ทาพวกสิวที่ไม่มีหัว ช่วยให้สิวยุบ แต่เม็ดที่อุจฉกรรจ์มาก ๆ ก็ไม่ยุบนะ T_T
2. Tomei Clindai Gel
- เจลแต้มสิว เป็นเนื้อใส ๆ เอามาทาพวกที่ขึ้นหัวออกมาแล้ว อย่างเช่นสิวอักเสบและสิวหัวหนอง
3. Kiehlis Blue Herbal Moisturizer
- เจลบำรุงผิวสูตรรักษาสิวโดยเฉพาะ ทำให้สิวยุบไปเยอะเลยค่ะ แต่ก็แอบมีข้อเสียตรงที่พอเอามาทาทั้งหน้าแล้วทาอย่างอื่นทับตามลงไป เนื้อมันออกมาเป็นขุย ๆ เหมือนขี้ไคลเลย อันนี้ไม่เวิร์ก ทุกวันนี้เลยเอาเน้นทาตามจุดที่เป็นสิวแทนค่ะ
Sun Care
แค่ไม่ทากันแดดก็ทำให้มีสิว ผิวเหี่ยวเกิดรอยย่นได้แล้ว ร้ายไปกว่านั้นคืออาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้!!! ชักจะน่ากลัวแล้ว...งั้นขอไปในส่วนของไอเทมกันแดดกันต่อเลยค่ะ
1. THEFACESHOP Natural Sun Eco Power Long-Lasting Sun Cream SPF50+ PA+++
- ซื้อใช้มาหลายหลอดแล้ว เป็นครีมกันแดดที่ควบคุมความมันได้ค่อนข้างดี ระหว่างวันก็มีเยิ้ม ๆ บ้าง ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะและเป็นคราบ เนื้อครีมเป็นสีเบจ ใช้เป็นเบสรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้เลย ทาแล้วผิวดูไบรท์ขึ้น ที่สำคัญมีกลิ่นหอมสดชื่นด้วย
2. Sunplay Watery Cool SPF50 PA+++
- ตัวนี้เป็นกันแดดสูตรเย็น เนื้อน้ำนมค่ะ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ทาแล้วผิวจะลื่น ๆ รู้สึกเย็น ๆ ผิวหน่อย ไม่ได้ช่วยเรื่องคุมมันมากนัก แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ ยังสามารถแต่งหน้าทับได้ ใช้กับผิวกายก็ได้เช่นกัน เหมาะกับวันสบาย ๆ ไม่ได้ออกไปไหน และเหมาะช่วงอากาศร้อน ๆ แบบเป็นที่สุด!
Eye Care
1. Cute Press Wine Eye Therapy All in One Treatment
- เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานอนหลับและตื่นนอนไม่เป็นเวลาเท่าไหร่ มิ้วก็เลยต้องพึ่งอายครีมค่ะ อย่างตัวนี้จะเป็นเนื้อเจลสีชมพู ทาแล้วจะลื่น ๆ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ดีพอสมควร แต่เรื่องรอยคล้ำยังไม่เห็นผลมาก เพราะจริง ๆ แล้วมันอยู่ที่การนอนหลับเป็นสำคัญค่ะ แต่เคยใช้ตัวนี้มาก่อนสมัยเรียนแล้วเห็นผลค่อนข้างดี เลยซื้อกลับมาใช้อีกครั้งค่ะ ( ตอนนั้นว่าชีวิตยุ่งแล้ว ตอนนี้แทบไม่มีเวลายิ่งกว่า 5555 T_T )
2. AVANCE Lash Serum EX
- สาว ๆ หลายคนอาจกลัวเรื่องแพนด้าหรือรอยคล้ำใต้ตา แต่สิ่งที่มิ้วกลัวยิ่งกว่านั้นคือเรื่องขนตาหลุดร่วงค่ะ เนื่องจากมิ้วเป็นคนที่มีขนตายาวแต่ไม่เยอะ แล้วเป็นคนชอบปัดมาสคาร่า มันก็เลยต้องมีการบำรุงกันหน่อย มีครั้งนึงเคยขนตาร่วงเยอะ ๆ จนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าแต่งหน้าไปเลย ใช้เจ้าตัวนี้มาได้ 2 เดือนแล้วรู้สึกได้ว่าขนตาร่วงน้อยลงค่ะ
Facial Mask + Scrub
ใส่ใจผิวขึ้นอีกขั้น ด้วยการเลือก Facial Mask และ Facial Scrub เพื่อผลัดเซลล์ผิวและบำรุงให้มากขึ้น
1. Scentio Milkplus Bright & White Facial Scrub
- เป็นสครับที่ใช้มาตลอดค่ะ ตั้งแต่ตอนเรียนปี 3 ช่วงรับปริญญาหน้าแห้งลอกก็มีสครับตัวนี้นี่แหละที่ช่วยกู้หน้ากลับมาได้ เพราะเอามาขัดหน้าแล้วมันเหมือนได้ผิวใหม่เลย คือจากผิวที่แห้งกร้านก็กลับมานุ่มเด้งขึ้นมาเลย มิ้วใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งค่ะ นับได้ไม่หมดเลยว่าใช้มากี่กระปุกแล้ว >.<
2. Yves Rocher Glow Sleeping Mask
- มิ้วเป็นคนมาส์กหน้าไม่บ่อยค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มาส์กเลย ตัวนี้เป็นสลีปปิ้ง มาส์ก ทาก่อนนอนหลังจากลงครีมบำรุงเสร็จ ( วันนั้นก็จะเป็นวันที่ไม่ทาออยล์ค่ะ ) แม้จะเป็นสูตรผิวขาวกระจ่างใส แต่นอนตื่นมาก็ไม่ได้ใส่ใจในส่วนนั้นค่ะ เพราะความประทับใจมันอยู่ตรงที่ผิวนุ่มเด้งขึ้นมาก ๆ
Lip Care
ดูแลผิวหน้าอย่างเดียวไม่พอ ริมฝีปากก็สำคัญ เพราะเป็นส่วนที่บอบบางมาก แม้จะไม่ได้แต่งหน้า แต่ถ้าปล่อยไปเฉย ๆ แบบไม่ได้รับการบำรุง ก็ทำให้ปากแห้งแตกจนเกิดเลือดออกได้เหมือนกัน ดังนั้นลิปมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ตัวมิ้วเองใช้ทั้งลิปมันธรรมดา แบบไม่มีสี และลิปบาล์มผสมสี ซึ่งเวลาทาออกมาแล้วปากจะดูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
1. Greenland Lip Balm, Strawberry
- ลิปมันบำรุงริมฝีปากกลิ่นผลไม้ ช่วยให้ปากชุ่มชื่น ไม่แห้งลอก กลิ่นหอมสตรอว์เบอร์รี่ มิ้วชอบทาตอนก่อนนอนค่ะ และบางทีอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนก็เอามาทาเหมือนกัน
2. Poompuksa Nursery Jelly Honey for Lip & Skins Treatment
- ลิปมันแบรนด์ไทยแท้ หาซื้อได้ทั่วไป กลิ่นหอมออกแนวธรรมชาติ เนื้อลิปเป็นแบบเจล ทาแล้วจะลื่น ๆ เหมือนมีอะไรมาเคลือบไว้ เอามาทาส่วนอื่น ๆ ในร่างกายที่แห้ง แตก และลอกได้อีกด้วย แต่โดยส่วนตัวยังไม่เคยเอามาลองกับที่อื่นค่ะ
3. Cute Press Alice in Wonderland Tint Balm #Alice, #Red Queen
- ลิปทินต์บาล์มผสมสีรุ่น Alice in Wonderland หอมกลิ่นมะพร้าวมาก ๆ มิ้วใช้อยู่ 2 สีค่ะคือสี Alice เป็นสีส้ม และสี Red Queen เป็นสีแดง ทาแล้วปากดูระเรื่อ มีความชุ่มชื้น เหมาะเอามาทาในวันสบาย ๆ
อาหารเสริม
โดยปกติเป็นคนที่กินอาหารเสริมเกี่ยวกับผิวไม่บ่อยนัก เพราะมั่นใจมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่าแค่เป็นสิวก็คงรักษาให้หายได้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ...เพราะเรียนจบมาเจอทั้งภาวะความกดดัน ความเครียด นอนน้อย พักผ่อนไม่พอ เรียกได้ว่าแค่ตื่นนอนออกไปทำงานได้นี่ก็ถือว่าบุญแล้ว ไม่มีเวลาได้ดูแลตัวเองมากนัก ซึ่งแน่นอน...มันเลยส่งผลกระทบไปถึงผิวพรรณของตัวเองด้วย
อาหารเสริมที่เคยลองกิน พอกินหมดก็ไม่ได้ซื้อต่อ เพราะอยากประหยัดเงิน ไม่ได้แตะอยู่เกือบปีค่ะ จนผิวเสียเข้าขั้นวิกฤตนี่แหละ เลยรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว คงต้องหาตัวช่วยเพื่อดูแลจากภายในบ้างแล้ว ช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็เลยได้เจ้าตัวนี้ค่ะ
Anytime 3s
เจ้ากล่องสามเหลี่ยมนี้มีชื่อว่า Anytime 3s ค่ะ เปิดออกมาจะเห็นซองเล็ก ๆ สีชมพูช็อกกิ้งพิงค์อยู่ภายใน นางมีคุณสมบัติช่วยปกป้อง ซ่อมแซม ฟื้นฟูทุกปัญหาผิว พร้อมช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
เริ่มตั้งแต่การกำจัดอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ริ้วรอยก่อนวัย ลดความหยาบกร้านของเซลล์ผิว ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวมีสุขภาพดี กระจ่างใสอมชมพู มีความชุ่มชื้น เรียบเนียน ไม่แห้งกร้าน สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวี พร้อมกันนั้นยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เซลล์ต่าง ๆ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนอีกด้วย
วิธีการกินก็ง่ายนิดเดียวค่ะ แค่เริ่มจาก
1. ตัดหรือฉีกซองสีชมพูที่อยู่ในกล่องสามเหลี่ยมของ Anytime
2. เปิดซองออกมา ( เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบผงค่ะ )
3. เทใส่ปากได้เลย เจ้าผงนี้มันจะละลายในปาก มีรสชาติอมเปรี้ยวเหมือนเบอร์รี่นิด ๆ อร่อยดีค่ะ
มิ้วกินวันละ 1-2 ซองค่ะ คือตอนหลังอาหารเช้า และก่อนนอน ตัวมิ้วเองเริ่มมาสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงได้ในวันที่ 5 รู้สึกว่าสิวค่อย ๆ หาย รอยสิวค่อย ๆ จางลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้นมาก ที่สำคัญคือวันไหนที่นอนดึกมาก ( เรียกว่านอนตอนเช้ามืดเลยก็ได้ ) ผิวไม่โทรมลงเลยค่ะ ตอนนี้กินมาได้ 3 สัปดาห์แล้ว เห็นผลดีขนาดนี้เลยตัดสินใจซื้อต่อ ส่วนนึงเพราะกินง่ายด้วย แล้วราคาก็ไม่แพงมาก กล่องนึงแค่ 590 บาทเท่านั้น ใครที่อยากประหยัดหน่อยจัดไปวันละซองตอนก่อนนอนก็ได้ค่ะ
*******************
และทั้งหมดนี้ก็คือสกินแคร์และอาหารเสริมทั้งหมดที่มิ้วอยากจะมาแชร์ให้ดูกัน เป็นการรวมของทุกอย่างมากที่สุดตั้งแต่ทำรีวิวมา เพราะทุกอย่างนี้ลองจริง ใช้จริง กินจริง ถึงเอามาเล่าสู่กันฟังได้ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คนที่มีปัญหาผิวเหมือนมิ้ว หรือต้องการดูแลผิวให้มากกว่าเดิม
กว่าจะกลับมามีผิวดีได้ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ ( มาก ) ลองผิดลองถูกจนรู้ว่าอะไรดีกับผิวของเรา และอะไรที่ไม่เหมาะกับเรา รวมไปถึงการดูแลตัวเองจากภายในด้วย ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ยิ่งใครที่อายุยังน้อย บำรุงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะเป็นการดีค่ะ
สุดท้ายนี้ถ้าใครมีคำถาม ข้อสงสัย หรืออยากบอกกล่าวอะไร สามารถคอมเมนต์มาที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ ขอบคุณที่ชมมาจนจบถึงตรงนี้ แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น