'Nars Dual Intensity Blush Palette' บลัชออนที่เป็นได้ทั้งเนื้อฝุ่นและเนื้อครีมในตัวเดียวกัน ด้านหน้าตลับจะเป็นกระจกพร้อมมีชื่อ Nars issit ด้านในมี 4 สี ซึ่งพอเปิดออกมา เราจะเห็นลายเส้นนูน ๆ ที่ทางแบรนด์เค้าทำเอาไว้อย่างสวยงามบนตัวบลัชออน เนื่องจากมิ้วลืมถ่ายรูปบลัชออนมา เลยขอใช้รูปจากเว็บไซต์อื่นแทนนะคะ TT
 |
| รูปภาพจาก reallyree.com |
ก่อนหน้านี้ Nars เคยผลิต Nars Dual-Intensity Blush เป็นตลับเดี่ยว ๆ ออกมาแล้ว ซึ่งพอเปิดตลับออกมา ด้านในจะมีอยู่ 2 สี มีทั้งสีอ่อนและสีเข้ม สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียกและแบบน้ำได้เช่นเดียวกัน บอกแค่นี้นึกไม่ออกหรอก ต้องไปดูภาพกัน
 |
| รูปภาพจาก sidewalkhustle.com |
คราวนี้กลับมาดูพาเลทของเรากัน
มิ้วจะทำการสวอทช์สีให้ดูกันทีละสีนะคะ โดยจะปาดออกมา 2 ครั้ง ครั้งแรกจะเป็นการปาดจากสีในตลับลงไปตรง ๆ (แบบแห้ง) และครั้งที่ 2 จะทำการฉีดน้ำแร่ลงบนแขนแล้วปาดให้ดูกันค่ะ (แบบเปียก)
***แต่จริง ๆ แล้วหากจะใช้เป็นแบบเปียก สามารถฉีดน้ำแร่ลงบนแปรงหรือพัฟ แล้วมาลงบนใบหน้าจะดีกว่าค่ะ
สีแรกสุดเป็นสีขาวค่ะ มีชื่อว่า Solf Tulle โดยส่วนมากมิ้วจะทำมาใช้ทำเป็นไฮไลท์ให้หน้าดูโกลว ๆ และช่วยเกลี่ยสีบลัชออกให้ไม่ดูเป็นเส้นจนเกินไป
- ส่วนที่ปาดลงไปแห้ง ๆ สีจะออกมาชัดเจนและเกลี่ยได้ง่ายค่ะ
- ส่วนการใช้แบบเปียก มิ้วว่าสีมันออกมาไม่เยอะ ลักษณะดูโปร่งใส แต่ก็ยังเห็นความเป็นชิมเมอร์อยู่บ้าง
สีที่ 2 Damask with Gold Sheen เป็นสีส้มพีชค่ะ สีนี้เป็นสีที่มิ้วชอบมาก ใช้บ่อยสุดเลยใน 4 สี
- ปาดลงไปแบบแห้ง ๆ ก็ได้สีตามที่อยู่ในตลับเลยค่ะ
- เมื่อใช้เป็นแบบเปียก มิ้วรู้สึกว่ามันได้สีที่อ่อนกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้สีสวยน้อยลงเลย ^^
สีที่ 3 เป็นสีชมพูสดค่ะ ชื่อสี Peony (เป็นชื่อที่น่ารักมากเลย ^^) คือมันออกชมพู้ ชมพู เวลาปัดแก้มก็ให้สีที่สวยดี ได้ลุคที่ดูน่ารักใส ๆ แต่เนื่องจากมิ้วแต่งหน้าในโทนส้ม เลยเอาสีนี้มาใช้ผสมปนกันกับสีที่ 2 ด้วยเลย
- ใช้แบบแห้ง ๆ ได้สีชมพูที่ชัดเจนมาก หากเอามาปัดเดี่ยว ๆ ต้องค่อย ๆ นะคะ อย่าหนักมือมาก ไม่งั้นจะกลายเป็นแก้มลิงเอาได้
- เช่นเดิมค่ะ พอเป็นแบบเปียก ก็ได้สีโปรงใส อ่อนลงมากว่าเดิม
สีสุดท้ายในพาเลทนี้ ชื่อสีว่า Titan สีออกน้ำตาลอมส้ม เหมือนสีอิฐ พอสวอชออกมาแล้วสีสวยมาก แต่เนื่องจากมิ้วลงปัดแก้มแล้วรู้สึกเข้มไป เลยเน้นปัดจากไรผมไล่เฉดเข้ามาบริเวณพวงแก้มเสียมากกว่า
สวอทช์สีทั้งหมดพร้อมเทียบสีจากในตลับให้ดู!
คราวนี้เราไปลองปัดแก้มกันค่ะ!
มิ้วจะใช้ สีที่ 2 Damask with Gold Sheen และสีที่ 3 Peony ผสมกันค่ะ
ปัดแก้มกันเลย มิ้วจะเริ่มปัดจากไรผมเข้ามา และเน้นสีให้เข้มขึ้นบริเวณพวงแก้มค่ะ
เพื่อให้การปัดแก้มไม่ดูเป็นเส้นจนเกินไป มิ้วจะใช้สีที่ 1 Solf Tulle ในการไฮไลท์
ปัดเหนือจากบริเวณที่เราปัดแก้มขึ้นมาเล็กน้อยที่จริงสามารถเอาสีนี้มาไล้สันจมูกได้ด้วย แต่เนื่องจาก T-Zone มิ้วมันมาก เลยจะขอข้ามตรงจมูกไปนะคะ
ทาลิปสติกเป็นขั้นตอนสุดท้าย มิ้วเลือกใช้สีเบจอมชมพูเล็กน้อยค่ะ อยากได้ลุคที่ดูไม่หนัก ไม่เวอร์วังมาก
และแล้วเราก็ได้ Complete ลุคกันเป็นที่เรียบร้อย!
 |
| แอบเห็นความ Dewy กันอยู่เล็กน้อยแต่พองาม |
เสร็จสิ้นกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการรีวิวบลัชพาเลทในครั้งนี้ ต้องออกตัวเลยว่ามันดีงามมากจริง ๆ เคยเจอแต่แป้งพัฟที่ใช้ได้ทั้งแบบเปียกและแบบน้ำ คราวนี้มาเจอในบลัชออนบ้าง เริดสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ก่อนจะจากกันไป มิ้วขอบอกถึงข้อดี - ข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
1. แพ็กเกจทำออกมาเรียบ ๆ แต่หรูหรา ดูแพง
2. ตัวตลับมีความแข็งแรงทนทานดี (เคยแอบกระแทกทำตกอยู่นิดหน่อย = =")
3. มี option ให้เลือกใช้ ว่าจะเอามาปัดแก้มแบบธรรมดา หรือใช้เป็นบลัชครีม (แบบเปียก)
4. สีสวยสะดุดตา ติดทน เม็ดสีชัด สามารถใช้ Shading หรือ Contour ได้ด้วย
ข้อเสีย
1. ที่บอกว่าแพ็กเกจหรูหราและดูแพง ราคาก็แพงจริงอะไรจริงค่ะ ราคาเต็มอยู่ที่ 2,150 บาทขาดตัว
2. ทุกสีล้วนแล้วแต่ผสมชิมเมอร์ เสียดายที่ทางแบรนด์ไม่ได้ผลิตเนื้อแมตต์ออกมาด้วย
สุดท้ายก็หวังว่าการรีวิวให้ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะคะ ใครมีคำถาม คำแนะนำ หรืออยากพูดคุยอะไรก็คอมเมนต์กันมาได้ คราวหน้ามิ้วจะมีอะไรมาให้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามชมกันนะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบาย ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น